ใช้ BTR3 อยู่ ตัดสินใจเปลี่ยนเป็น BTR5 ดีไหมนะ ?
2.รองรับ 3.5mmมาตรฐาน และ 2.5mm (Balanced)
3.รองรับ XMOS Chip และ รองรับ Native DSD
1.คุณภาพเสียงที่ดีกว่าเดิม เพราะ BTR3 นั้นใช้ AKM AK4376A แต่ BTR5 นั้นใช้ ES9218P แบบ Dual ถึง 2ตัว ในการถอดรหัสเสียง ให้ความละเอียดสูงเอาต์พุตที่ชัดเจนและทรงพลังพร้อมอิมพิแดนซ์เอาต์พุตต่ำในขณะที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียง แต่จะเพิ่มอัตราส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวน (SNR) แต่การบิดเบือนยังลดลงเพื่อคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นอย่างมาก สมระดับ Flagship Dac amp ไร้สายของ Fiio ในปีนี้
BTR3 นั้นใช้ BT4.2 แต่ BTR5 นั้นใช้ BT5.0 ที่จะมีจุดเด่นในเรื่องของการเชื่อมต่อที่เสถียร ไวกว่าถึง 2เท่า ระยะกว้างกว่า 4เท่าของ 4.2การเพิ่มระยะนี้รวมถึงความสามารถในการส่งสัญญาณเสียงไปยังอุปกรณ์สองเครื่องหมายความว่าผู้คนสามารถส่งสัญญาณเสียงไปยังห้องหลายห้องในบ้านสร้างเอฟเฟกต์สเตอริโอในที่เดียวหรือแบ่งปันเสียงระหว่างหูฟังสองชุด
3.แบตเตอรี่จุมากขึ้นจาก 300mAh เป็น 500mAh
BTR3นั้นมีแบตที่ประมาณ 300mah สามารถชาจเต็มได้ในเวลา1.5ชม. และเล่นได้ยาวนานถึง 11ชม
แต่ BTR5 นั้นเพิ่มแบตเป็น 500mAhสามารถเล่นได้ถึง 12ชม.ด้วยการชาร์จเพียง 2ชม.(Quickcharge)
ถึงจะแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้หมายความว่า BTR3 แพ้ BTR5 เสียหมดเพราะ BTR5 ก็มีขนาด และ น้ำหนักที่มากกว่า BTR3 อยู่เล็กน้อย (BTR5หนัก43.7กรัม และ BTR3 คือ 25กรัม) สืบเนื่องด้วยแบตเตอรี่ที่มากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ขนาด และ น้ำหนักมากกว่า BTR3 เล็กน้อย