บทความโดย James Chung : CEO of FiiO
บทที่ 7 HiFi True Wireless Prospect
ก่อนหน้านี้เมื่อเครื่องเล่น MP3 เข้าสู่ตลาดใหม่ๆนั้น มักประกอบด้วยชิปหลายสิบตัวที่มีวงจรภายในที่ซับซ้อนมาก เมื่อเวลาผ่านไปเทรนด์การใช้วงจรรวมก็เริ่มเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น ถึงขนาดที่บางรุ่นใช้ชิปๆเดียวทำหน้าที่ทุกๆอย่างในเครื่องก็มี อย่างไรก็ตามอุปกรณ์พกพา MP3ไฮไฟ รุ่นหลังเริ่มแบ่งแยกหน้าที่ของแต่ละชิปออกจากกัน โดยใช้ชิปจากผู้ผลิตอิสระสำหรับโปรเซสเซอร์ ,ใช้สำหรับที่เก็บข้อมูลภายใน ,DAC และแอมป์ บางครั้งก็อาจจะเห็นการใช้ชิป DAC ร่วมกับตัวต้านทานหลายร้อยตัวก็มี
เรากลับไปที่หูฟัง TWS หลายปีก่อนผมเคยใช้หูฟัง TWS รุ่นแรกๆนั่นก็คือ Icon X ของ Samsung ซึ่งมีชิปหลายตัว และเนื่องจากการปรากฏตัวของ Airpods ทำให้เทคโนโลยี TWS เป็นที่นิยมจนถึงจุดสุดยอด โซลูชัน TWS ในปัจจุบันได้พัฒนาไปสู่ชิปตัวเดียว แม้ว่าจะมีชิปเพียงตัวเดียวในเอียร์บัด แต่ความจริงก็พิสูจน์ได้ว่ายังมีโอกาสอีกมากที่จะแยกชิปเหล่านี้ออกจากกัน
ดังนั้นเมื่อใดจึงจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมองเห็นแนวโน้มที่แยกชิปจากกัน? เนื่องจากผลิตภัณฑ์ TWS ครองตลาดอย่างรวดเร็วจึงกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้ฟังเสียงที่ยอมรับผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่นี้ ท้ายที่สุดใครอยากจะปฏิเสธกับเทคโนโลยี TWS ที่สามารถพกพาได้ ถึงแม้ว่าบางกรณีอาจจะมีข้อยกเว้นเกิดขึ้นเมื่อหูฟัง TWS ทั่วไปบางรุ่นไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะรองรับความจุกจิกของเหล่าออดิโอไฟล์เหล่านี้
แล้วอะไรที่จำกัดคุณภาพเสียงของ TWS?
สรุปได้ว่าคุณภาพเสียงของ TWS ถูกกำหนดโดยคร่าวๆจาก 3 ข้อหลักๆคือ
1. รูปแบบการส่งสัญญาณ ในปัจจุบันรูปแบบการส่งสัญญาณเสียง Bluetooth ธรรมดาได้เข้าสู่ยุคของ LDAC แล้ว จากผลตอบรับจากตลาดและผู้ใช้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาข้อกำหนดของอัตรา bit rate สูง ,อัตราการ sampling rate สูง / ความลึกบิตสูงที่ถูกประมวลผลโดย LDAC ทำให้ปัญหาคอขวดนั้นไม่มีอีกต่อไป ท้ายที่สุดรูปแบบ CD formats สามารถทำได้ที่ 44.1KHz / 16Bit เท่านั้น
ปัจจุบัน TWS รองรับเฉพาะ aptX สำหรับ LHDC ที่มีคุณภาพดีขึ้นนั้นยังไม่ได้รับการทดสอบเมื่อนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ TWS และมันยังคงอยู่ในผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ในตลาด แต่อย่างน้อยเราก็สามารถรู้ได้ว่าตัวแปลงสัญญาณนี้มีโอกาสอย่างมากที่จะนำไปใช้กับ TWS ในอนาคต
2. ส่วนอะคูสติก (ไดรเวอร์ , การออกแบบท่อนำเสียง (cavity) ฯลฯ ) ผลิตภัณฑ์ TWS แบบดั้งเดิมไม่ว่าจะเป็นไดร์เวอร์ตัวเดียว, 1 BA + ไดร์เวอร์ไดนามิก 1 ตัวหรือหูฟังไดร์เวอร์แบบ 2 BA + 1 ไดนามิกมีช่องท่อนำเสียง (cavity)ที่ค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับหูฟังคลาสไฮไฟเนื่องจากการออกแบบขนาด เส้นผ่านศูนย์กลางของไดรเวอร์ไดนามิกส่วนใหญ่คือ 6 มม. ดังนั้นจะมีความแตกต่างของคุณภาพเสียง อย่างไรก็ตามสิ่งต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไปตั้งแต่การเกิดขึ้นของ TWS earhooks เช่น UTWS3 ในเวลานี้ข้อจำกัดทั้งหมดถูกขจัดออกไป ตราบใดที่ขั้วต่อของหูฟังเป็นแบบมาตรฐาน MMCX หรือ 0.78 มม. ก็สามารถเชื่อมต่อกับ UTWS3 และเปลี่ยนเป็นหูฟัง TWS ได้ทันที
3. ส่วนของวงจร (การประมวลผลสัญญาณบลูทูธ , การประมวลผลสัญญาณดิจิตอล, วงจรแอมพลิฟายเออร์อะนาล็อกแปลงดิจิตอลเป็นอนาล็อก (DA) ฯลฯ ) สำหรับผลิตภัณฑ์ TWS ทั่วไปส่วนใหญ่ชิปในตัวจะรับผิดชอบการทำงานทั้งหมด ในขณะที่ UTWS3 มีชิปอิสระสองตัวแทนที่จะเป็นชิปตัวเดียว: QCC 3020 ทำหน้าที่ในการรับบลูทูธ ,การประมวลผลสัญญาณและการแปลง DA ในขณะที่ชิปอื่นๆที่มีประสิทธิภาพดีกว่านั้นมีไว้สำหรับวงจรขยายสัญญาณอนาล็อก
แน่นอนว่าส่วนของวงจรมีพื้นที่สำหรับการพัฒนามากขึ้น ในอนาคตอาจจะมีชิป DAC อิสระสำหรับส่วน DAC การประมวลผลการรับบลูทูธ การประมวลผลสัญญาณดิจิทัล (DSP หรือ FPGA หรือชิปเฉพาะ) การแปลง DA และชิ้นส่วนขยายอนาล็อก ด้วยวิธีนี้จะไม่มีความแตกต่างระหว่างเอียร์บัดและเครื่องเล่น HIFI ในปัจจุบันมากนักยกเว้นในเรื่องกำลังขับเนื่องจากข้อจำกัดโดยการใช้พลังงานและแบตเตอรี่ของผลิตภัณฑ์ TWS
สรุปได้ว่า UTWS1 ได้ก้าวข้ามข้อจำกัด 2 ข้อ ในขณะที่ UTWS3 ได้ก้าวข้ามข้อที่สามเพิ่มเติมจากข้อ 2 โดยส่วนตัวผมหวังว่าด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี เมื่อถึงเวลาที่ UTWS9 ถือกำเนิดขึ้นนั้นมันจะเป็น true wireless earhook ที่แท้จริง อย่างน้อยก็รองรับตัวแปลงสัญญาณบลูทูธ ความละเอียดสูง LDAC โดยไม่มีข้อจำกัดด้านเสียงและใช้ชิป DAC และชิปแอมป์อิสระประสิทธิภาพสูง
มาเฝ้าดูการทำงานอย่างหนักของเราเพื่อพัฒนามันกันเถอะ!